|
สมัครสมาชิก | คู่มือการใช้ | รายชื่อสมาชิก | ปฏิทิน | ข้อความวันนี้ | ค้นหา |
|
เครื่องมือของหัวข้อ | ค้นหาในหัวข้อนี้ |
#1
|
|||
|
|||
The Elementary proof of The Fermat's Last Theorem ( Complete Edition )
คราวนี้สมบูรณ์แบบแล้วครับ The Elementary proof of Fermat's Last Theorem (Complete Edition)
ปักหมุดเลยครับ แอดมิน บทพิสูจน์นี้ถูกต้องครับ เชื่อผมสิ ผมบอกแล้วใช้ความรู้ไม่เกิน ม. ปลาย จริงมั๊ยครับ ปล. สองกระทู้ก่อนหน้านี้ ไม่ต้องอ่านก็ได้ครับ อ่านกระทู้นี้เลยทีเดียว
__________________
วิศวกรรมศาสตร์ พระจอมเกล้าลาดกระบัง รุ่น 38 22 เมษายน 2024 19:12 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ อัจฉริยะ |
#2
|
|||
|
|||
มีพิมพ์ผิดนิดหน่อยนะครับ ตรงกราฟ ผมรีบไปหน่อย แต่ไม่กระทบกับเนื้อหาสาระครับ
__________________
วิศวกรรมศาสตร์ พระจอมเกล้าลาดกระบัง รุ่น 38 |
#3
|
||||
|
||||
อันนี้คือพิสูจน์เสร็จแล้วเหรอครับ ผมเห็นแต่พิสูจน์ในกรณีที่ $n$ มีค่ามากพอแค่นั้นเอง
ถ้าคุณพิสูจน์ FLT ได้ละก็ ช่วยเขียนพิสูจน์แค่กรณี $a^3+b^3=c^3$ ให้ผมดูหน่อยได้มั้ยครับ ??
__________________
I'm Back |
#4
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
ถ้าลองดูบทพิสูจน์ของผมดีๆ มันครอบคลุมทุกค่าของ n นะครับ เราสามารถทำให้ค่า n มากพอได้ โดยลดค่าของ c ครับ เอาไว้ผมกลับบ้านจะพิสูจน์ให้ดูครับ กำลัง 3 ง่ายๆ ครับ
__________________
วิศวกรรมศาสตร์ พระจอมเกล้าลาดกระบัง รุ่น 38 |
#5
|
|||
|
|||
เพิ่งกลับมาถึงบ้านครับ รถติดมากมาย
มาต่อกันครับ ที่ถามผมว่าจะพิสูจน์กำลัง 3 ยังไง?? คือจากบทพิสูจน์ของผมนะครับ พูดกันง่ายๆเลยคือ ถ้ากราฟใดๆที่มี n > ln(2)/ln(c/c-1) หรืออยู่ในโซนสีเหลือง no intersection point area กราฟนั้นๆจะไม่ผ่านจุดตัดใดๆเลย หรือเขียนในรูป a^n + b^n = c^n โดยที่ a , b, c เป็นจำนวนเต็ม ไม่ได้นั่นเอง และ a กับ b ต้องเป็นจำนวน ''อตรรกยะ'' เท่านั้นซะด้วย แล้วทำไมถึงเป็นจำนวนอตรรกยะ?? กลับไปอ่านบทพิสูจน์ของผมดูครับ มีบอกไว้ชัดเจน เอาล่ะ มาพูดเรื่องกำลัง 3 กันต่อ ถามว่า a^3 + b^3 = c^3 a , b ,c จะเป็นจำนวนเต็มทั้งหมดได้มั้ย?? ผมตอบเลยว่า ไม่ได้ พิสูจน์ : ผมให้มีจำนวนเต็ม k^3 หารออกจากสมการ จะได้ว่า (a/k)^3 + (b/k)^3 = (c/k)^3 ทีนี้ผมจะเพิ่มค่า k ให้มากๆเข้าไว้ ให้มากพอที่จะทำให้ 3 > ln(2)/ln((c/k)/((c/k)-1)) ส่วน c/k ถ้าน้อยกว่า 1 ก็ถือว่าไม่มีจุดตัดใดๆในกราฟเลยนะครับ ไม่ต้องใช้สมการนี้ก็ได้ข้ามไปเลย เพราะทุกพื้นที่ถือว่าเป็น no intersection point area ทั้งหมด ส่วนพจน์ด้านล่าง (c/k)-1 ถ้า c/k ไม่ใช่จำนวนเต็ม ก็ใช้ฟังชั่นเพดานของ c/k เอาครับ คือเข้าสู่สภาวะ no intersection point นั่นเอง นั่นคือจะทำให้ เป็นการบีบ a/k และ b/k ต้องเป็นจำนวนอตรรกยะเท่านั้น แต่ a/k และ b/k ต่างก็เป็นจำนวนตรรกยะ เพราะเขียนอยู่ในรูปเศษส่วนได้ เห็นอยู่ทนโท่เนอะ มันจึงทำให้เกิดการขัดแย้ง ทำให้สรุปได้ว่า ไม่มีจำนวนเต็มบวกใดๆที่ a , b , c ใดๆ ที่ทำให้ a^3 + b^3 = c^3 ไม่ได้ใช้เฉพาะ n = 3 นะครับ ใช้ได้กับทุกค่า n เลย ปล. แต่เอาเข้าจริงๆ n > ln(2)/ln(c/c-1) ไม่ได้ใช้คำนวณหรอกครับ เอาไว้ใช้อ้างอิงเฉยๆ
__________________
วิศวกรรมศาสตร์ พระจอมเกล้าลาดกระบัง รุ่น 38 28 กันยายน 2016 21:38 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 7 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ อัจฉริยะ |
#6
|
|||
|
|||
ผมอยากให้ผลงานผมไปอยู่ในนี้ครับ >>> http://annals.math.princeton.edu/
ทำยังไงดีครับ วอนท่านผู้รู้หน่อย ผมไม่ต้องการเงินหรืออะไรทั้งนั้น ผมแค่อยากมีผลงานเป็นของตัวเองครับ ผมทำด้วยใจ ไม่ได้ทำด้วยเงิน การค้นพบอะไรใหม่ๆมันประเมินค่าเป็นเงินไม่ได้ ช่วยผมที ได้โปรดเถอะครับ อยากให้ศาสตราจารย์ด๊อกเตอร์ ทั้งหลายแหล่ ช่วยพิจารณาผลงานผมด้วยครับ ถึงผมจะไม้ได้เป็นอาจารย์หรือนักวิจัย เป็นแค่คนธรรมดาๆคนนึงที่มีใจรัก แต่ผมก็อยากมีผลงานกับเค้าเหมือนกัน
__________________
วิศวกรรมศาสตร์ พระจอมเกล้าลาดกระบัง รุ่น 38 28 กันยายน 2016 22:50 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 4 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ อัจฉริยะ |
#7
|
|||
|
|||
ขอถามอีกนิด
ตอนนี้ยอมรับว่าผมก็กำลังพิสูจน์ สมมุติฐานของรีมันน์อยู่ครับ น่าจะอีกซักพักใหญ่ๆ แล้วถ้าเกิดผมทำได้ขึ้นมาจริงๆ ผมจะตีพิมพ์ออนไลน์แบบเดิมนี้ได้มั้ยครับ ?? ใครจะเข้ามาอ่านบ้าง กลัวไม่มีคนเข้ามาอ่าน ปัญหาของผมคือ ทำน่ะทำได้ แต่จะมีคนเอาผลงานผมไปลงวารสารรึป่าวนี่สิ น่าจะมีช่องทางที่ดูมีความหวังกว่านี้หน่อยนะครับ เอามาตีพิมพ์ออนไลน์มันดูลอยๆชอบกล กลัวไม่มีคนอ่าน
__________________
วิศวกรรมศาสตร์ พระจอมเกล้าลาดกระบัง รุ่น 38 |
#8
|
||||
|
||||
ผมว่ารอให้คนในนี้ช่วยตรวจให้แน่ใจว่าถูกต้องสมบูรณ์ก่อนดีกว่าค่อยเผยแพร่ในวงกว้างๆนะครับ เพราะผมลองอ่านแล้วเจอบางจุดมันแปลกๆอยู่ และก็ยังงงๆอยู่ ขอทำความเข้าใจก่อนนะครับ ถ้ามันถูกจริงๆก็อาจจะต้องปรับให้มันเข้าใจง่ายขึ้นกว่านี้หน่อยครับ
__________________
เหนือฟ้ายังมีอวกาศ |
#9
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
คิดว่าผิดตรงไหนว่ามาได้เลยครับ มองให้ลึกๆครับ จะเห็นความสวยงามของมัน บทพิสูจน์ที่น่าอัศจรรย์ที่ยังไม่ถูกค้นพบมา 300 กว่าปี น่าจะเป็นแบบนี้ https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8...B8%A1%E0%B8%B2 I don’t believe Fermat had a proof. I think he fooled himself into thinking he had a proof. But what has made this problem special for amateurs is that there’s a tiny possibility that there does exist an elegant seventeenth century proof. (ผมไม่เชื่อว่าแฟร์มาจะมีบทพิสูจน์ที่ถูกต้องจริง ผมคิดว่าเขาหลอกให้ตัวเองเชื่อว่าเขามีบทพิสูจน์นั้น แต่สิ่งที่ทำให้โจทย์ข้อนี้เป็นเรื่องพิเศษสำหรับนักคณิตศาสตร์สมัครเล่นก็คือ มันทำให้เกิดความหวังว่า ยังมีโอกาสที่จะค้นพบบทพิสูจน์อันสวยงามได้โดยใช้เพียงความรู้คณิตศาสตร์ในศตวรรษที่ 17) ขนาดแอนดรู ไวล์ ยังไม่เชื่อว่ามีบทพิสูจน์ที่ว่านั่นเลยครับ แต่ผมทำให้เห็นแล้วว่ามันมีอยู่จริง ปล. ถ้าถูกแล้ว ปักหมุดเลยมั้ยครับ
__________________
วิศวกรรมศาสตร์ พระจอมเกล้าลาดกระบัง รุ่น 38 29 กันยายน 2016 00:10 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 7 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ อัจฉริยะ |
#10
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
ผมจะยังไม่บอกว่าคุณผิดละกัน แต่จะมาสรุป proof ใหม่ของคุณตามที่ผมเข้าใจ อ้างอิง:
__________________
----/---~Alice~ จงรับรู้ไว้ ชื่อแห่งสีสันหนึ่งเดียวที่แสดงผล ---/---- ~Blue~ นี่คือ สีแห่งความหลังอันกว้างใหญ่ของเว็บบอร์ดนี้ |
#11
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
ส่วนกรณี n = 2 , จาก n > ln(2)/ln(c/c-1) ผมลองให้ c = 3 ln(2)/ln(3/2) = 1.71 โดยประมาณ เราคิดที่จำนวนเต็ม n ที่น้อยที่สุดที่มากกว่า ในที่นี้ก็คือ n = 2 จะได้สมการ a^2 + b^2 = 3^2 เป็นปีทาโกรัส a และ b จะไม่เป็นจำนวนตรรกยะทั้งคู่แน่ครับ ส่วนถ้า c = 4 แล้ว ln(2)/ln(4/3) = 2.41 โดยประมาณ เราคิดที่จำนวนเต็ม n จำนวนเต็มที่น้อยที่สุดที่มากกว่า 2.41 ก็คือ 3 a^3 + b^3 = 4^3 ก็จะได้ a และ b จะเป็นจำนวนอตรรกยะ อย่างนี้รึป่าวครับ คือจะบอกผมว่า บทพิสูจน์ผมมีโอกาสที่ prove ที่ n = 2 แล้ว a และ b ต้องเป็นจำนวนอตรรกยะเท่านั้นด้วยรึป่าวครับ? ถ้าผมผิดตรงไหน ชี้แนะด้วยครับ ผมจะได้ทราบด้วย แต่ผมคิดว่าถ้าจะผิดก็คงพอแก้ไขได้ แต่คงไม่ถึงกับเปลี่ยนแนวคิดนี้ไปเลย
__________________
วิศวกรรมศาสตร์ พระจอมเกล้าลาดกระบัง รุ่น 38 29 กันยายน 2016 01:00 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 7 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ อัจฉริยะ |
#12
|
|||
|
|||
อ๋อ ผมรู้ละ คุณกำลังจะบอกว่า มันมีโอกาสที่ a และ b ไม่เป็นจำนวนอตรรกยะพร้อมกันก็ได้ใช่มั้ยครับ
คือ a อาจเป็นตรรกยะ(จำนวนเต็ม) b อาจเป็นอตรรกยะ อะไรแบบนี้ แต่ถึงเป็นอย่างนั้นก็พิสูจน์ FLT ได้อยู่ดีครับ เพียงแต่ผมต้องไปปรับปรุงบทพิสูจน์เล็กน้อยอีกทีนึง
__________________
วิศวกรรมศาสตร์ พระจอมเกล้าลาดกระบัง รุ่น 38 29 กันยายน 2016 01:08 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ อัจฉริยะ |
#13
|
|||
|
|||
ผมเริ่มงง ไปหมดละครับ 55555
อันที่จริง ยอมรับว่าผมลืมคิดกรณี n = 2 ไปเลย เพราะคิดว่ามันเป็นจำนวนเต็มได้ทั้งหมดได้อยู่แล้ว ปีทาโกรัส เลยไม่สนใจมัน เลยข้ามไปคิดแค่ n = 3 ขึ้นไป ซึ่งมันก็จริงนะสำหรับ n = 3 ขึ้นไป ท่าน Thgx0312555 คิดว่าผมต้องปรับปรุงตรงไหนบ้างครับ ตอนนี้เริ่มมึนและง่วง 5555 ปล. ถ้าผมหลับไปก่อนไม่ว่ากันนะครับ คอนเม้นทิ้งไว้ได้เลย เดี๋ยวผมมาอ่าน
__________________
วิศวกรรมศาสตร์ พระจอมเกล้าลาดกระบัง รุ่น 38 29 กันยายน 2016 01:26 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 5 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ อัจฉริยะ |
#14
|
|||
|
|||
อ๋อ ผมรู้แล้วครับท่าน
จริงๆแล้ว เราไม่จำเป็นต้องเลือก แค่ค่า c-1 < a < c หรอกครับ เพราะมันก็ได้แค่จำนวนเศษส่วนน่ะสิ จริงๆพื้นที่ส่วนสีเหลืองมันครอบคลุมตั้งแค่ 0 ถึง c ซึ่งหมายรวมถึง จำนวนเต็มด้วย ดังนั้นเป็นไปได้ 3 กรณี 1. a เป็นจำนวนเศษส่วน b เป็นจำนวนเศษส่วน 2. a เป็นจำนวนอตรรกยะ b เป็นจำนวนอตรรกยะ 3. a เป็นจำนวนเต็ม b เป็นจำนวนอตรรกยะ ====> n = 2 เข้าข่ายข้อนี้ เมื่อพิสูจน์ต่อไป จะพบว่ามันเป็นไปได้แค่ ข้อ 2. กับ 3. เท่านั้น ดังนั้นก็ prove FLT ได้อยู่ดีเพราะ ไม่ได้เป็นจำนวนเต็มทั้งหมด ผมต้องกลับไปแก้บทพิสูจน์อีกครั้งครับ ต้องเพิ่มเคสที่ 3 ไปด้วย ถ้าทำอย่างนี้แล้วจะพิสูจน์กรณี n= 2 ได้ด้วยครับ ขอบคุณท่าน Thgx0312555 ที่มาบอกเรื่อง n = 2 ตอนนี้ผมก็พิสูจน์ได้แล้วครับ คงต้องมี Complete Edition ครั้งที่ 2
__________________
วิศวกรรมศาสตร์ พระจอมเกล้าลาดกระบัง รุ่น 38 29 กันยายน 2016 01:47 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 4 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ อัจฉริยะ |
#15
|
|||
|
|||
คุณ Thgx0312555 เข้าใจบทพิสูจน์ผมได้ถูกต้องแล้วครับ แต่ดูเผินๆแล้วอาจครอบคลุมไม่หมด
แต่ผมอยากเสริมนิดนึงว่าเราสามารถปรับค่า c ได้ด้วยนะครับ ทำให้มันครอบคลุมทุกกรณีได้ครับ มีใครเข้าใจบทพิสูจน์ผมอีกบ้างครับ คอมเม้นได้เลย
__________________
วิศวกรรมศาสตร์ พระจอมเกล้าลาดกระบัง รุ่น 38 |
หัวข้อคล้ายคลึงกัน | ||||
หัวข้อ | ผู้ตั้งหัวข้อ | ห้อง | คำตอบ | ข้อความล่าสุด |
The Elementary proof of The Fermat's Last Theorem | อัจฉริยะ | ปัญหาคณิตศาสตร์ทั่วไป | 11 | 28 กันยายน 2016 13:22 |
The shortest proof in the world of the Fermat's last theorem | อัจฉริยะ | ปัญหาคณิตศาสตร์ทั่วไป | 30 | 27 กันยายน 2016 12:55 |
Proof of the Fermat Last Theorem | Phudis | ปัญหาคณิตศาสตร์ทั่วไป | 2 | 30 มกราคม 2014 20:57 |
Fermat's little theorem | Amankris | ทฤษฎีจำนวน | 1 | 28 กุมภาพันธ์ 2012 18:36 |
ช่วยหาคำตอบให้ด้วยค่ะ (Fermat's last theorem) | polarbear | ปัญหาคณิตศาสตร์ทั่วไป | 11 | 16 พฤษภาคม 2008 02:11 |
|
|