#1
|
||||
|
||||
ช่วยหน่อยครับ
เราจะพิสูจน์อย่างไรว่า
1. ถ้า $A\subset B$ แล้วจำนวนเซตที่ทำให้ $ A \subset x \subset B$ เท่ากับ $2^{n(B)-n(A)}$ เซต 2. ถ้า $A\subset B$ แล้วจำนวนเซตที่ทำให้ $A \not\subset x \subset B$ เท่ากับ $2^{n(B)}-2^{n(B)-n(A)}$ เซต
__________________
Fortune Lady
11 เมษายน 2010 21:08 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 4 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Siren-Of-Step |
#2
|
|||
|
|||
1. ลองคิดดูว่าเซตที่มีคุณสมบัตินี้มีจำนวนสมาชิกได้สูงสุดเท่าไหร่
__________________
site:mathcenter.net คำค้น 11 เมษายน 2010 21:30 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ nooonuii เหตุผล: ผิดเต็มๆ |
#3
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
1. $ A \subset x$ ดังนั้น x มีสมาชิกอย่างน้อย n(A) ตัว ดังนั้นเหลือสมาชิกในเซต B ให้เลือกมาใส่ใน X ได้อีก n(B)-n(A) ตัว ซึ่งเลือกได้ $2^{n(B)-n(A)}$ วิธี 2. เนื่องจาก B มีสับเซตได้ $2^{n(B)}$ ถ้าไม่นับสับเซตที่มี A เป็นสับเซต ก็เอาจำนวนสับเซตทั้งหมดลบด้วยจำนวนสับเซตในข้อ 1 (เพราะข้อ 1 นับเฉพาะสับเซตที่มี A เป็นสับเซต) จึงได้$2^{n(B)}-2^{n(B)-n(A)}$ เซต อาจไม่ใช่วิธีพิสูจน์ ถือว่าเป็นคำอธิบายนะครับ |
#4
|
||||
|
||||
คือผมกำลังเรียนเรื่องเซทแล้วกำลังงงกับส่วนนี้พอดีด้วยครับ
รบกวนผู้รู้ช่วยพิสูจน์แบบให้ดูออกเลยอะครับ
__________________
Physics is beautiful and usable in real life. |
|
|