|
สมัครสมาชิก | คู่มือการใช้ | รายชื่อสมาชิก | ปฏิทิน | ข้อความวันนี้ | ค้นหา |
|
เครื่องมือของหัวข้อ | ค้นหาในหัวข้อนี้ |
#1
|
||||
|
||||
เลือกเรียน คณิตศาสตร์ หรือ ฟิสิกส์
ผมฟังเรื่องจากคนๆนึง เป็นเด็กนักเรียนที่กำลังขึ้นมหาวิทยาลัยน่ะครับ เเล้วก็มุ่งมั่นว่าจะเข้า คณะวิทยาศาสตร์ เพียงเเต่ว่าไม่รู้ว่าจะเลือกสาขาไหนดีน่ะครับ เลยมาถามผมเเล้วผมก็ไม่สามรถตัดสินใจให้กับเขาได้เช่นกัน
เรื่องที่ฟังมาประมาณว่า 1.เคยเข้าร่วม การเเข่งขันคณิตศาสตร์มากมาย เเต่ก็พลาดหวังมาค่อนข้างมาก เช่นสอบคณิตศาสตร์โอลิมปิกก็ได้เหรียญทองเเดง 2 ปีซ้อนซึ่งตัวเขานั้นคิดว่าเป็นความล้มเหลวอย่างยิ่งเนื่องจาก ก่อนสอบมีความตั้งใจค่อนข้างมาก อ่านเเละทำเเบบฝึกหัดมาร่วมปี เเต่ผมลัพธ์ก็ไม่ต่างไปจากเดิม(ปีก่อน) ส่วนรายการอื่นๆก็ไม่ได้เด่นอะไรมากนัก 2.เคยชอบ วิชาฟิสิกส์มากพอๆกับคณิตศาสตร์จนกระทั่งขึ้น ม.5 เขาก็ได้ทุ่มเทกับคณิตมากจนละเลยในวิชาฟิสิกส์นี้ไป (บอกว่าไม่ชอบสไตล์การสอนของ อ.คนใหม่เเละมี อ.ฟิสิกส์ม.4 เป็นไอดอลเเละชอบการสอนของ อ.เค้าครับ)จนกระทั่งจบ ม.6 อ.ฟิสิกส์ ม.4 ก็เข้ามายินดีที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ความคิดที่ชอบในวิชานี้ก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขาอีกครั้งเเละเป็นประเด็นที่มาของปัญหาด้วยมั้งครับ 3.เด็กคนนี้ไปค่าย สอวน.ที่เขาเคยเข้าอยู่ครับ เเล้วไปเจออาจารย์ท่านนึง(ใน มหาลัย0สอวนนั้น) ก็ถามว่า คณิตนี่ใช่เราจริงๆหรือป่าว ประมาณนี้ครับ เหมือนให้เขาคิดเอาเองต่อ 4.ผมไม่เข้าใจเลยว่า ทั้งๆที่เขาเจ็บปวดจากคณิตมามากทำไมยังคิดที่จะเรียนอีกน่ะครับ ส่วนตัวเลยบอกให้เขาเรียนฟิสิกส์ดีกว่า ท่านทั้งหลายใน mct พอจะมีเเนวทางให้เด็กคนนี้ไหมครับ
__________________
Vouloir c'est pouvoir |
#2
|
||||
|
||||
ถ้าถามว่าคณิตศาสตร์คืออะไร เมื่อก่อนตอนเป็นนักเรียนมัธยม คำตอบนี้อาจจะยังไม่ชัด
แต่หลายปีต่อมาคำตอบนี้ชัดแจ้งครับ สำหรับผมคณิตศาสตร์คือการแสดงพลานุภาพของพระเจ้าผ่านมวลมนุษยชาติครับ บางคนอาจจะคิดว่าเพ้อเจ้อเหลวไหล แต่ผมไม่สนใจครับ เวลาคิดเลขออกแก้ปัญหาได้ หรือเข้าใจแนวคิดบางอย่าง ผมจะรู้สึกสะใจแบบ มันสุดยอดจริง ๆ อะไรทำนองนั้น มันรู้สึกลึกลับน่าค้นหา ความลับที่ซ่อนอยู่เหมือนขุมทรัพย์โจรสลัด. นั่นก็คือให้เขาลองหาที่เงียบ ๆ อากาศดี ๆ ลมพัดสบาย นั่งบนสนามหญ้าหรือม้านั่ง จากนั้นลองค่อย ๆ ย้อนความรู้สึกกลับไป ตั้งแต่เด็ก ถามความรู้สึกของตัวเองตั้งแต่เด็กว่าทำไม เราชอบวิชานี้ ทำไมเราไม่ชอบวิชานั้น เราเรียนวิชานี้เพราะคาดหวังกับรางวัลหรืออะไรกันแน่ เป็นต้นครับ. เนื่องจากสมัยเรียนหนังสือตอนมัธยมส่วนใหญ่ผมจะอ่านเองทั้งหมดทั้งวิชาเลขกับฟิสิกส์ ดังนั้นครูที่สอนจะไม่มีผลกระทบกับผมครับ ใครก็ได้ไม่ต่างกันเท่าไร ครูผู้สอนจึงไม่มีผลกระทบกับผมครับ จะมามีก็ครั้งหนึ่งตอนเรียนวิชาสถิติโดย อ.คณะบัญชี ซึ่งทำให้ผมไม่ชอบอย่างมาก แต่ที่จริงแล้วมันแก้ได้ไม่ยากโดยการอ่านเองมาก่อน แต่ตอนนั้นผมกำลังติดเกมติดคอมพิวเตอร์มากไปหน่อย เลยไม่ได้อ่านก่อนเหมือนที่เคยทำประจำ พอฟังสำนวนวิธีการสอนของ อ.ท่านนั้นก็เลยพาลไม่ชอบครับ แต่ตอนเลือกเรียนต่อในตอนนั้นผมกลับเลือกวิศวะ เพราะคิดเรื่องเงินเป็นหลัก เนื่องจากจนครับ. มานั่งย้อนคิดหลังจากเรียนมาหลายปี และมีเหตุฟองสบู่แตกพอดี เลยต้องนั่งคิดอย่างจริงจังครับ ว่าเราชอบอะไรกันแน่ เราจะอยู่กับอาชีพหรืองานที่ไม่ชอบหรือเฉย ๆ เราทำได้ไหม นั่นคือตัวของเราไหม บางคนอาจจะฝืนทำงานที่ตัวเองไม่ชอบแต่เงินดีกว่าได้ครับ แต่สำหรับผมแล้วไม่ใช่อย่างแน่นอน เรื่องให้ตัดสินใจตอนนี้จึงยากครับ บางทีต้องให้เวลาผ่านไปอีกหลายปี จึงอาจจะตกผลึกได้ ถ้าใครรู้ตัวก่อนว่าอนาคตเราชอบอะไรจริง ๆ ก็โชคดีไป ถ้ายังไม่แน่ก็ลองเรียนไปดูก่อนครับ อาจจะต้องมาพลิกผันในภายหลังเหมือนหลาย ๆ คน. |
#3
|
||||
|
||||
นั้นมันแกเองปะ ?
เรื่องผิดหวังมากมันก็มีทุกคนแหละ แกคิดดูว่าแกได้ทองแดง TMO 2ปี แต่มีอีกกี่คนที่ไม่เคยไป TMO ? ถ้าเราชอบจริงๆจะผิดหวังแค่ไหนก็ทิ้งไปไม่ได้หรอกเว้ย สู้ๆเพื่อน
__________________
You may face some difficulties in your ways But its Good right ? |
#4
|
|||
|
|||
ถ้าอยากเรียน pure science อย่างที่ว่าจริง ผมให้น้ำหนักไปทางคณิตศาสตร์มากกว่าครับ
โอกาสมีมากกว่าเรียนฟิสิกส์ ถ้าจบมาเป็นนักวิจัยด้วยแล้วงานวิจัยทางคณิตศาสตร์จะทำได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะในประเทศที่มีงบประมาณด้านการวิจัยน้อยอย่างประเทศไทย |
#5
|
|||
|
|||
ถึง คนที่กำลังคิดหนักเรื่องอนาคตตัวเอง
เหรียญทองแดง ล้มเหลว ? ผมว่าคุณมีความคาดหวังสูงไปนะ จากประสบการณ์ที่ผมสอนปริญญาตรีมาสามปี เด็กเก่งๆที่มาเรียนคณิตศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยผม ได้อย่างมากก็ไม่เกินเหรียญทองแดงครับ พวกเหรียญเงินขึ้นไปน่ะเหรอไปเรียนหมอ วิศวะกันหมดแล้วล่ะ ผมว่าระดับเหรียญทองแดง TMO นี่อาจจะทำให้คุณเป็น ระดับหัวแถวของมหาวิทยาลัยที่คุณไปเรียนเลยเชียวล่ะ การเรียนระดับอุดมศึกษาเราเรียนเพื่อให้รู้ครับไม่ได้เรียนเพื่อแข่งกับใคร ส่วนใหญ่จะแข่งกับตัวเองเสียมากกว่า การมีประสบการณ์ทางด้านโอลิมปิกวิชาการถือว่าคุณมีต้นทุนสูงกว่าคนอื่นและได้เปรียบคนอื่นอยู่มาก แต่คนที่ไม่มีประสบการณ์เหล่านี้ก็ใช่ว่าจะเรียนต่อไม่ได้นะครับ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนอยู่ที่ความตั้งใจ และมีเวลาเป็นตัวกำหนดทิศทาง ถ้าคุณคิดว่าคุณได้อิสรภาพในการกำหนดทางเดินชีวิตของตัวเองด้วยตัวเองแล้วล่ะก็ เลือกทำในสิ่งที่คุณอยากทำและรักที่จะทำเถอะครับ แล้วคุณจะไม่เสียใจในภายหลัง |
#6
|
||||
|
||||
ขอบคุณทุกๆท่านจริงๆครับ ที่จริงผมก็เลือกทางเดินไว้เเล้วล่ะครับ
ปล. ผมไม่ได้เป็นคนคาดหวังอะไรสูงๆ หรือว่าเเข่งกับใครหรอกนะครับ เพียงเเต่ว่าผมเเค่อยากก้าวข้ามตัวเองเมื่อปีก่อนไปน่ะครับ เเบบนี้จะเรียกว่าเเข่งกับตัวเองหรือเปล่าเเต่มันก็ไม่สำเร็จจริงๆ ปล.2 ขอบคุณจากใจจริงๆนะครับ ตอนตั้งกระทู้ผมก็็ตระเวนถามรุ่นพี่ต่างๆไว้มากเหมือนกัน
__________________
Vouloir c'est pouvoir |
#7
|
||||
|
||||
สู้ๆ นะครับ การพัฒนา ตัวเองน่ะ คือการทำโจทย์ได้ครอบคลุมมากขึ้น เหรียญ อ่ะ ตัดสินไม่ได้หรอก การเเข่งกับตัวเอง ให้ฝีมือสูงขึ้นอ่ะ คนอื่นก็ขึ้นตามนะครับ เหมือนกับทฤษฎี สัมพัทธภาพไงครับ
__________________
Mathematics is not about finding X but finding whY. |
#8
|
||||
|
||||
ถ้าชอบวิชานั้นจริงๆอ่ะ ไม่เกี่ยวกับอาจารย์ หรอก ครับเราพัฒนาตัวเองด้วยตัวเองได้ ความชอบน่ะ ขึ้นอยู่กับเวลาครับ ลองสอนคนอื่น ทบทวนเนื้อหา อาจจะช่วยให้นึกออกได้ครับ
__________________
Mathematics is not about finding X but finding whY. |
#9
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
ผมเองก็กำลังขึ้น ม 4 สอบ TMO 2 ปีติด แต่ก็ไม่ได้เหรียญทั้งสองปี แต่ตอนนี้ก็ไม่นึกเสียใจอะไรแล้วอะครับ เพราะรู้ว่าตัวเองพลาดเยอะ ทั้งๆที่บางข้อของวันแรก ควรเก็บแต้มได้ |
#10
|
||||
|
||||
เหรียญ ไม่ได้หมายถึงความเก่งนะครับ มันเกี่ยวกับความพร้อมในการเเข่ง ครับ
__________________
Mathematics is not about finding X but finding whY. |
#11
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
__________________
*อย่าตัดสินว่าสิ่งไหนถูกผิด เพียงเท่าแต่ตนเองคิด* ลองคิดดูทุกๆทางซิครับ ? |
|
|