|
สมัครสมาชิก | คู่มือการใช้ | รายชื่อสมาชิก | ปฏิทิน | ข้อความวันนี้ | ค้นหา |
|
เครื่องมือของหัวข้อ | ค้นหาในหัวข้อนี้ |
#1
|
|||
|
|||
ข้อสอบแข่งขันไปนอกของ ก.พ. ปี 2553
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) 17 กันยายน 2010 10:35 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ banker เหตุผล: แก้ชื่อหัวข้อกระทู้ |
#2
|
|||
|
|||
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
#3
|
|||
|
|||
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
#4
|
||||
|
||||
อันนี้้เป็นข้อสอบ ของ ม.ต้นนะครับ
สำหรับข้อสอบทั้งหมด ดูได้จากหน้านี้นะครับ (สำหรับท่านที่ยังไม่ทราบ) http://www.ocsc.go.th/ocsccms/frontw...yID=CAT0001782 |
#5
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
#6
|
||||
|
||||
ลุงBanker....เอามาให้ช่วยกันเฉลยใช่ไหมครับ
ผมขอเลือกข้อง่ายๆก่อน ของยากๆให้ผู้มีฝีมือท่านอื่นทำ 4.2 $P(4)=16A-4B-12=0$.......(1) $Q(-3)=9A-3B-6=0$.......(2) (1)$\times 3 \ 48A-12B=36$.......(3) (2)$\times 3 \ 36A-12B=24$.......(4) (3)-(4) $ 12A=12 \rightarrow A=1$ $B=1$ $\frac{2A-B}{2}= \frac{1}{2} $
__________________
"ถ้าเราล้มบ่อยๆ ในที่สุดเราจะรู้ว่าถ้าจะล้ม ล้มท่าไหนจะเจ็บน้อยที่สุด และรู้อีกว่าต่อไปทำยังไงจะไม่ให้ล้มอีก ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะล้ม"...อาจารย์อำนวย ขนันไทย ครั้งแรกในชีวิตที่สอบคณิตสมาคมคณิตศาสตร์เมื่อปี2533...ผมได้แค่24คะแนน(จากร้อยคะแนน) 20 กันยายน 2010 20:35 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ กิตติ |
#7
|
|||
|
|||
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
#8
|
||||
|
||||
4.4 ผมคิดได้ $\frac{19}{3} $ หน่วย
พ.ท.สี่เหลี่ยมคางหมู$=(x+1)(x-2)+\frac{1}{2}(x-2)[2x+3-(x+1)] =16$ $(x-2)[x+1+\frac{x}{2}+1 ]=16$ $(x-2)[3x+4]=32$ $3x^2-2x-40=0$ $x=4$.... ด้านที่ขนานกันด้านยาวยาวกว่าด้านสั้นเท่ากับ$x+2$ เท่ากับ $6 $ หน่วย เมื่อกี้คิดค่าผิด..เฉลยตามลุงBankerครับ
__________________
"ถ้าเราล้มบ่อยๆ ในที่สุดเราจะรู้ว่าถ้าจะล้ม ล้มท่าไหนจะเจ็บน้อยที่สุด และรู้อีกว่าต่อไปทำยังไงจะไม่ให้ล้มอีก ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะล้ม"...อาจารย์อำนวย ขนันไทย ครั้งแรกในชีวิตที่สอบคณิตสมาคมคณิตศาสตร์เมื่อปี2533...ผมได้แค่24คะแนน(จากร้อยคะแนน) 15 กันยายน 2010 18:02 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ กิตติ |
#9
|
|||
|
|||
เดิมแต่ละคนมีเงินฝาก นิด : ก้อย : หน่อย = 5x : 3x : 4x เมื่อรวมกับเงินพิเศษก็จะเป็น นิด : ก้อย : หน่อย = (5x +3200) : (3x+3600) : (4x+880) = 5 : 4 : 3 = k (5x +3200) = 5k .........(1) (3x +3600) = 4k .........(2) (4x +880) = 3k .........(3) (1)+(2)+(3) 12x + 7680 = 12k x +640 = k 3x + 1920 = 3k .....(4) (2) - (4) 1680 = k นิด (5x +3200) = 5k = 5 x1680 = 8400 ก้อย (3x +3600) = 4k = 4 x 1680 = 6720 หน่อย (4x +880) = 3k = 3 x 1680 = 5040 ตอบ นิด 8400 บาท, ก้อย 6720 บาท, หน่อย 5040 บาท
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
#10
|
||||
|
||||
4.1 ถ้านำจำนวนกำลังสองที่เรียงติดกันสองจำนวนมาลบกัน
แล้วผลต่างของจำนวนทั้งสองเท่ากับผลบวกของจำนวนนับสองจำนวนที่เรียงติดกันเสมอ ผมคิดวิธีพิสูจน์ได้สองแบบ แบบแรก จาก$a^2-b^2=(a+b)(a-b)$ เนื่องจากสองจำนวนเรียงติดกัน จะได้ว่า$a-b=1$ จะเหลือแค่ $a^2-b^2= a+b $ ซึ่งเป็นจำนวนนับสองจำนวนเรียงติดกัน แบบที่สอง ให้$a=b+1$ จะได้ว่า$a^2-b^2=(b+1)^2-b^2 =(b+1+b)(b+1-b) = b+1+b$ แทน$b+1$ ด้วย $a$ ดังนั้น $a^2-b^2= b+1+b =a+b$ ซึ่งเป็นจำนวนนับสองจำนวนเรียงติดกัน จริงๆก็เหมือนกัน
__________________
"ถ้าเราล้มบ่อยๆ ในที่สุดเราจะรู้ว่าถ้าจะล้ม ล้มท่าไหนจะเจ็บน้อยที่สุด และรู้อีกว่าต่อไปทำยังไงจะไม่ให้ล้มอีก ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะล้ม"...อาจารย์อำนวย ขนันไทย ครั้งแรกในชีวิตที่สอบคณิตสมาคมคณิตศาสตร์เมื่อปี2533...ผมได้แค่24คะแนน(จากร้อยคะแนน) |
#11
|
|||
|
|||
พื้นที่สี่เหลี่ยมคางหมู = 1/2 x (ผลบวกด้านคู่ขนาน) x สูง 16 = 1/2 (x+1+2x+3)(x-2) 32 = $3x^2-2x-8$ x = 4 ด้านยาว ยาวกว่าด้านสั้น = (2x+3) - (x+1) = x+2 = 4+2 = 6 หน่วย
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
#12
|
|||
|
|||
ให้ t นาทีคือส่วนที่เกินจาก 200 นาที s ครั้ง คือจำนวนครั้งที่ sms เกิน 50 ครั้ง m ครั้งคือจำนวนครั้งที่ mms เกิน 10 ครั้ง i คือจำนวนนาทีที่ใช้ internet เกิน 240 นาที สมการค่าใช้จ่าย = 250 +1.5 t + 3 s + 6 m + 1 i (คำตอบข้อ ก) ค่าใช้จ่ายของแอน = 250 + 1.5 (30) + 3 (20) + 0 (6) + 30 (1) = 250+45+60+0+30 = 385 บาท (คำตอบข้อ ข)
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
#13
|
|||
|
|||
$P(x) = Ax^2 -Bx -12$ $P(4) = A(4)^2 -B(4) -12 =0$ $16A-4B-12 =0$ ......(1) $Q(x) = Ax^2 +Bx -6$ $Q(-3) = A(-3)^2 +B(-3) -6 =0$ $9A - 3B -6 = 0$ ...(2) จาก (1) และ (2) $A = 1, \ \ B = 1$ $\dfrac{2A-B}{2} = \dfrac{2-1}{2} = \dfrac{1}{2}$
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
#14
|
|||
|
|||
$\sqrt{16(m^2+1)} = 20$ $m = 2\sqrt{6} = 2 \times 2.4 = 4.8$ ....(*) $p = -2\sqrt{75} + \dfrac{27}{\sqrt{48}} + \sqrt{108}$ $p = -2 \times 5 \sqrt{3} + \dfrac{27 \sqrt{48}}{48} + 6 \sqrt{3}$ $p = -\dfrac{7 \sqrt{3}}{4}$ $p^2m = (\frac{-7 \sqrt{3}}{4})^2 \times 4.8 =44.1$
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
#15
|
|||
|
|||
$\dfrac{32}{100} \times 150 = 48 $คน ตรวจใหม่ เหลือ $\dfrac{87.5}{100} \times 48 = 42$ คน ดังนั้น สอบได้คะแนนเกินครึ่ง $= 150 -42 = 108 \ $ คน $ \ = \dfrac{108}{150} \times 100 = 72$ %
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
หัวข้อคล้ายคลึงกัน | ||||
หัวข้อ | ผู้ตั้งหัวข้อ | ห้อง | คำตอบ | ข้อความล่าสุด |
TOP 100 : โรงเรียนที่ดีที่สุดในประเทศไทยปี2553 | คusักคณิm | ฟรีสไตล์ | 28 | 02 สิงหาคม 2011 21:43 |
สอวน ม.นเรศวร ปี 2553 วิชาคณิตศาสตร์ | ~ArT_Ty~ | ข้อสอบโอลิมปิก | 45 | 10 มีนาคม 2011 07:46 |
ฤดูการแข่งขันคณิตศาสตร์ 2553 เริ่มแล้ว | banker | ข่าวคราวแวดวง ม.ต้น | 33 | 05 มกราคม 2011 20:03 |
ฤดูการแข่งขันคณิตศาสตร์ 2553 เริ่มแล้ว | banker | ข่าวคราวแวดวงประถม ปลาย | 35 | 09 ธันวาคม 2010 09:38 |
คะแนนสูงสุดแอดมิชชั่น 2553 | คusักคณิm | ฟรีสไตล์ | 8 | 02 กรกฎาคม 2010 16:19 |
|
|