|
สมัครสมาชิก | คู่มือการใช้ | รายชื่อสมาชิก | ปฏิทิน | ข้อความวันนี้ | ค้นหา |
|
เครื่องมือของหัวข้อ | ค้นหาในหัวข้อนี้ |
#1
|
|||
|
|||
ขอปรึกษาเรื่อง คณิตศาสตร์หน่อยครับ
ผมอยู่ ม.3 นะครับ อยากขอปรึกษาพี่ทุกๆคนหน่อย ครับ ตอนนี้กลุ้มใจมาก ก็คือเรื่องมีอยู่ว่า ผมไม่เคยไปเรียน พิเศษเลขเลยครับ ผมศึกษาเองมาตลอด ตั้งแต่ ม1 แล้วที่ผ่านมาก็ถือว่าใช้ได้ใน ระดับนึงอะครับ แต่ยังไม่ถึง กับเก่งขนาด ติดค่าย สอวน ไรประมาณนั้น ผมก็ศึกษาเอง ทำ บฝ ตามหนังสือไปเรื่อย แต่จนกระทั่งวันนึง ผมค้นพบได้ว่า ตัวเอง มาถึงทางตันครับ คือ แปลว่า ผมก็อยู่ได้แต่ระดับนี้ ทำโจทย์ไปเรื่อยๆ แต่พอไปสอบ สมาคมเลข หรือ ลองดูข้อสอบ สอวน ผมก็ทำ ไม่ค่อยได้เลยอะครับ คืออยากรู้ว่า จะทำยัง ไงให้ เก่งเลขแบบแท้จริง ไม่ใช่แค่เก่งใน รร ธรรมดา ทำอย่างไร ถ้ามี เป้าหมายถึงระดับโ อลิมปิก ตอนนี้ควรเริ่มก้าวอย่างไรครับ ผมลองถามคนอื่นดู พวกเก่งๆเค้าว่าไปเรียน supk สิ แต่ผมอยากทราบว่า มันมี วีธีอื่นมั้ยครับ ถ้าศึกษาเอง จะทันพวกเค้ามั้ย ถ้ามีหนังสือ แนะนำก็จะดีครับ แล้ว มีพี่ๆคนไหนหรือเปล่าครับ ที่เจอปัญหา แบบเดียวกันมา ช่วยแนะทีครับ ว่าควรทำอย่างไร ขอบคุณมากๆครับ สำหรับความคิดเห็น อ้อ แล้วก็ที่เค้ากันว่า ถ้าจะไปถึง โอลิมปิกได้ ตอนนี้ ต้องเก่งสุดๆแล้ว ก็แปลว่าสำหรับผมนี่ มาเริ่มตอนนี้ ก็หมดความหวังแล้ว จริงหรือเปล่าครับ?? ชี้แนะด้วยครับ
|
#2
|
||||
|
||||
ไม่จำเป็นต้องเรียนพิเศษหรอกครับ ถ้าน้องอยากเก่งเลขต้องอึดครับ การทำโจทย์ยากๆ (อย่างโจทย์โอลิมปิก) จากประสบการณ์ทั้งของตัวเอง และจากเพื่อนๆ ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องอึดครับ (คนที่เห็นโจทย์แล้วรู้คำตอบเลย คือคนที่เคยเห็นโจทย์ข้อนั้นมาก่อน) นอกจากนั้นต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ จากโจทย์หลายๆแบบ ธรรมชาติของคณิตศาตร์เนี่ย นอกจาก logic (การใช้เหตุและผล) แล้วต้องฝึกความคิดและการเขียนพิสูจน์ครับ ยิ่งเรียนสูงๆขึ้นไปลักษณะของคณิตศาสตร์ จะยิ่งสลับซับซ้อนมากขึ้น อีกอย่างนะครับ ไม่ต้องกลัวครับว่าจะตามคนอื่นไม่ทัน ถ้าน้องมีโอกาศไปเข้าค่าย ตรงนั้นจะยิ่งช่วยน้องได้มากเลยละ อาจารย์ที่ค่ายโอลิมปิกทุกคนเก่งๆทั้งนั้นครับ และนักเรียนทุกคนที่ไปเข้าค่ายจะเหมือนกับเริ่มจากศูนย์พร้อมกัน เขาวัดกันที่ความคิดและความก้าวหน้าครับ มีนะครับคนที่เริ่มไปเข้าค่ายโดยไม่มีความรู้อะไรมาก แต่กลับได้เป็นตัวแทน (บางคนไม่ได้มาจากโรงเรียนดังๆเลย แต่ได้เป็นตัวจริง และได้เหรียญรางวัลด้วย) อันนี้ไม่ใช่เพราะฟลุ้ก แต่เป็นเพราะอาจารย์ที่ค่าย เขามีวิธีครับ ที่จะวัดความสามารถของนักเรียน
|
#3
|
|||
|
|||
ไม่ต้องเรียนพิเศษหรอกครับ หาโจทย์โอลิมปิกเก่าๆ มาทำ คือผมก็พึ่งเริ่มม.3 เหมือนกัน ตั้งแต่ขึ้นม.4 มายังไม่เคยเรียนพิเศษเลขเลยครับ ตอนนี้เข้าค่ายโอลิมปิกอยู่มีโจทย์เรขาทำไม่ได้ก็เอามาpost.oouh
|
#4
|
||||
|
||||
ถ้าเน้นทางสมาคมหรือ โอลิมปิก ก็ต้องหาข้อสอบเก่าๆของสมาคม หรือโอลิมปิกมาทำให้หมดครับ เพราะแบบฝึกหัดที่น้อง ศึกษาด้วยตนเองมาตลอด มันคนละแนวทาง และข้อสอบเก่าๆนี้เอง ที่จะช่วยให้น้องค้นพบ แนวคิดในการแก้ปัญหาใหม่ๆเพิ่มขึ้น จากแบบฝึกหัดในหนังสือเรียน ปัญหาแต่ละข้อควรจะแก้ให้สำเร็จด้วยตนเอง ไม่จำเป็นต้องแก้ให้เสร็จในคราวเดียว หากน้องมีใจจดจ่อกับปัญหาเพียงพอ เวลาที่น้องไปทำกิจกรรมอย่างอื่น จิตใต้สำนึกมันจะช่วยค้นหาคำตอบให้เอง คือจะเกิดความรู้สึกแว้บเข้ามาในหัว ว่ามันทำอย่างนี้ก็ได้...
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือความคิด ที่ต้องการเรียนรู้สิ่งใหม่ ไปพร้อมกับปัญหานั้น ลองเปรียบเทียบความคิด ก่อนแก้ปัญหา และหลังแก้ปัญหานั้น ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร เราได้เรียนรู้อะไรจากปัญหานั้นบ้าง อะไรที่มาบังตาให้ มองทางออกของปัญหาไม่พบในคราแรก จำประสบการณ์เหล่านี้เอาไว้ และนำมาใช้กับปัญหาต่อๆไป (ว่าแล้วก็ลองไปแก้ปัญหาของพี่ข้อนี้ ด้วยตนเองสักครั้ง อยากได้โจทย์เรื่องวงกลม (แบบประยุกต์) ใช้ความรู้ ม.3 ก็แก้ได้แล้วครับ ) การไปเรียนพิเศษ ก็คือไปรับรู้ประสบการณ์ของคนอื่นนั่นเอง มันช่วยน้องยกระดับประสบการณ์ได้ อย่างรวดเร็วในเวลาสั้นที่สุด แต่นั่นก็ขึ้นกับแต่ละบุคคล ว่ามีความสามารถดึงเอาประสบการณ์ ของคนอื่นมาเป็นของตนเองได้ดีแค่ไหน ถ้าจะเปรียบเทียบก็เหมือนกับ ไปรับเครื่องมือจับปลามา แต่หากนำมันไปใช้เป็นอย่างเดียว โดยไม่ยอมศึกษาถึงแนวความคิดและเหตุผล ในการสร้างเครื่องมือเลย ก็ต้องทนใช้เครื่องมือนั้นต่อไป โดยไม่รู้จัก ดัดแปลงหรือสร้างเครื่องมือจับปลาใหม่ๆด้วยตนเอง และนั่นจะทำให้น้องไปไม่ถึงดวงดาว เพราะมีปัญหาอยู่มากมาย ที่น้องต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆจากตัวปัญหา และสร้างเครื่องมือใหม่ๆไปแก้ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของน้องเอง ว่าต้องการแนวทางไหน สำหรับพวกพี่ๆ รักที่จะจับปลาอย่างมีความสุขในแนวทาง ของตนเอง แต่ก็นำประสบการณ์นั้นมาแบ่งปัน เล่าสู่กันฟังในเว็บบอร์ดแห่งนี้ หากน้องสนใจเก็บเกี่ยวประสบการณ์เหล่านี้ ที่ไม่ได้จัดหมวดหมู่ไว้ และพร้อมจะศึกษาด้วยตนเอง ก็ลองเปิดดูปัญหาย้อนหลังขึ้นไป จนถึงปัญหาข้อแรกๆเลยครับ จะได้ความคิดใหม่ๆขึ้นเยอะ ซึ่งมันก็ปกติดีครับ (แปลกจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ) แม้ว่าจะผ่านมาถึง 5 ปีแล้ว แต่ปัญหาเก่าๆมีน้องเข้ามาเปิดดู ไม่ถึงร้อยคน หนังสืออ่านมี 2 แนวครับ คือแนวความรู้ทั่วไปเช่น ทฤษฎีจำนวน , Combinatoric , Graph Theory , Geometry ของ สสวท กับ สอวน กับแนว Problem Solving ฝึกความคิดแก้ปัญหา ไม่รู้มีของไทยรึเปล่า แต่หากเป็นตำราต่างประเทศ ดูได้ที่ หนังสือแนะนำ หาอ่านได้ตามห้องสมุดของ มหาวิทยาลัยต่างๆ ไม่มีคำว่าสายครับ เอาเวลาที่กังวลว่ามันจะสายมั้ย ไปฝึกทำโจทย์ดีกว่า เห็นผลชัดเจนกว่ากันเยอะเลย
__________________
The difference between school and life? In school, you're taught a lesson and then given a test. In life, you're given a test that teaches you a lesson. |
|
|