Mathcenter Forum  

Go Back   Mathcenter Forum > คณิตศาสตร์โอลิมปิก และอุดมศึกษา > Calculus and Analysis
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ข้อความวันนี้

ตั้งหัวข้อใหม่ Reply
 
เครื่องมือของหัวข้อ ค้นหาในหัวข้อนี้
  #1  
Old 11 ตุลาคม 2012, 13:46
~ArT_Ty~'s Avatar
~ArT_Ty~ ~ArT_Ty~ ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 03 กรกฎาคม 2010
ข้อความ: 1,081
~ArT_Ty~ is on a distinguished road
Default อินทิเกรตสนามไฟฟ้า

ตามนี้ครับ
$$\int_{0}^{\pi} \frac{a-b\cos \theta}{(a^2+b^2-2ab \cos \theta)^{\frac{3}{2}}} d\theta$$

อธิบายที่มาที่ไปนิดนึง : คือผมอยากรู้อ่ะครับว่าสนามไฟฟ้าที่กระทำกับจุดที่อยู่ห่างจาก

ศูนย์กลางทรงกลมประจุ $Q$ กลวงผิวบางรัศมี $b$ เป็นระยะ $a$ มีค่าเท่าไหร่อ่ะครับ

โดยที่ผมใช้แบบว่าฝานทรงกลมกลวงเป็นวงแหวนบางๆแล้วก็ใช้ว่า

$$E=\int dE = kQ\int_{0}^{\pi} \frac{a-b \cos \theta}{(a^2+b^2-2ab\cos \theta)^{\frac{3}{2}}} d\theta$$

ถ้าใครมีแนวคิดที่ดีกว่านี้ก็ช่วยชี้แนะหน่อยนะครับ
__________________
...สีชมพูจะไม่จางด้วยเหงื่อ แต่จะจางด้วยนํ้าลาย...
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #2  
Old 11 ตุลาคม 2012, 21:06
Keehlzver's Avatar
Keehlzver Keehlzver ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 26 มกราคม 2009
ข้อความ: 533
Keehlzver is on a distinguished road
Default

ถือว่าโจทย์กำหนดประจุไฟฟ้ากระจายสม่ำเสมอ
อินทิเกรดมาจากการประมาณพท.วงแหวนบางๆเป็น $(2\pi b sin \theta)(bd\theta)$ ใช่ไหมครับ
คำตอบที่ได้คือ $\frac{\sigma 4\pi b^2}{4\pi \varepsilon_{0}a^2}$ โดยที่ $\sigma$ คือความหนาแน่นผิว
ผมว่าไม่มีวิธีที่ง่ายกว่านี้แล้วครับ

จะเปลี่ยนประจุไฟฟ้าไปเป็นสนามไฟฟ้า ลองใช้กฎของเกาส์ดูยังครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Gauss%27s_law
__________________
"ชั่วโมงหน้าต้องดีกว่าเดิม!"
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #3  
Old 11 ตุลาคม 2012, 21:43
~ArT_Ty~'s Avatar
~ArT_Ty~ ~ArT_Ty~ ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 03 กรกฎาคม 2010
ข้อความ: 1,081
~ArT_Ty~ is on a distinguished road
Default

อ่อ คือว่าผมนึกว่าเวลาเราแบ่งออกมาเป็นวงแหวนบางๆ มันจะกลายเป็นลวดโค้งรูปวงกลมอ่ะครับ

เลยอาจจะผิดไป คือเรื่องนี้โรงเรียนผมจะสอนตอนเทมอ 2 นี้อ่ะครับ

เลยลองเอามาอ่านเตรียมตัวดูก่อนน่ะครับ ขอบคุณมากๆครับ
__________________
...สีชมพูจะไม่จางด้วยเหงื่อ แต่จะจางด้วยนํ้าลาย...
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #4  
Old 07 กุมภาพันธ์ 2013, 20:28
kongp kongp ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 05 พฤษภาคม 2006
ข้อความ: 1,127
kongp is on a distinguished road
Default

ปรกติ วิธีที่ดีที่สุดคือแปลงโจทย์ให้เข้ากับสูตรต่างๆ แต่สูตรโพลาร์ดูยาก แหะ ! เอาเป็นว่าทุกอย่างย่อมมีข้อดีข้อเสีย และ ควรบอกได้ด้วยว่าอินทริเกรตอะไรอยู่ เป็นต้น อันความเป็น genious ทางคณิตศาสตร์ความหมายหนึ่งอาจจะเป็นการสามารถหาเส้นทางหรือสิ่งที่นำมาเชื่อมต่อจากรูปแบบในโจทย์ไปสู่รูปแบบที่ง่ายที่สุด

ทบ. ที่ใช้แก้คือสูตรผลหารของการอินเกรต สูตรอื่นนอกเหนือจากนี้ มีการแปลง s,z Domain etc. เพราะบางท่านมองย้อนกลับไปยังสูตรผลรวมที่ i=1..n แทนสัญลักษณ์อินทริกรัลจึงได้สูตรอีกมากมาย บางคนมองผลลัพธ์คำตอบก็เริ่มจากตรงนั้นก็เป็นการคำนวนสูตรย้อนกลับ ที่พลิกแผลงอาจจะต้องทำตามผู้ใหญ่

ยังดีที่คำนวนสูตรโซลิด หรือ homogenius ผมว่าไล่ไม่ยาก ยิ่งไม่ได้มีการกำหนดจำนวนตำแหน่งทศนิยมสำคัญ น่าจะออกง่ายๆ สุดท้ายลองใช้ Euler formular แก้ดูนะครับ นี่คือตัวอย่างเพิ่มจากวิธีของเกาส์

13 กุมภาพันธ์ 2013 20:17 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ kongp
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #5  
Old 19 กุมภาพันธ์ 2013, 21:27
kongp kongp ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 05 พฤษภาคม 2006
ข้อความ: 1,127
kongp is on a distinguished road
Default

ผมชอบพรรณาวิชาคณิตศาสตร์ ดั่งการวิจารณ์ภาพวาด ซึ่งดีทั้งความเข้าใจและฝึกฝนเขียนบทความ ที่ผมตั้งใจฝึกฝนมานาน

การ Solve โจทย์ กลายเป็นเรื่องรอง ทั้งที่เป็นเรื่องท้าทายไม่น้อย และ เป็นขั้นตอนสำคัญ ในการสร้างงานระดับมืออาชีพ ยิ่งเวลาต้อง Coop กับผู้คนสายงานอื่นๆ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
ตั้งหัวข้อใหม่ Reply



กฎการส่งข้อความ
คุณ ไม่สามารถ ตั้งหัวข้อใหม่ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบหัวข้อได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์และเอกสารได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความของคุณเองได้

vB code is On
Smilies are On
[IMG] code is On
HTML code is Off
ทางลัดสู่ห้อง


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 18:39


Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha