|
สมัครสมาชิก | คู่มือการใช้ | รายชื่อสมาชิก | ปฏิทิน | ข้อความวันนี้ | ค้นหา |
|
เครื่องมือของหัวข้อ | ค้นหาในหัวข้อนี้ |
#1
|
|||
|
|||
เผย PATต.ค.ให้คะแนนฟรี 10 ข้อ
"รศ.ดร.สัมพันธ์" อ.ศึกษาศาสตร์ มข.นั่ง ผอ.สทศ.คนใหม่! - เผย PATต.ค.ให้คะแนนฟรี 10 ข้อ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 ตุลาคม 2553 11:05 น. สรรหา ผอ.สทศ.จบ "รศ.ดร.สัมพันธ์" อาจารย์คณะศึกษาศาสตร์ ม.ขอนแก่น เข้าวิน! เผยเชี่ยวชาญประเมินวัดผล วิจัย พร้อมเริ่มงาน 1 ธ.ค.นี้ ด้าน "ศ.ดร.อุทุมพร" แจง GAT/PAT เดือนต.ค.ครั้งล่าสุด พบข้อสอบมีปัญหา 3 วิชา PAT 2,PAT 3,PAT 7.2 ยกประโยชน์ให้คะแนนนักเรียน 10 ข้อ รศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ วานนี้(26 ต.ค.) ที่สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ดร.สงบ ลักษณะ ประธาน คณะกรรมการบริหาร สทศ. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการสรรหาฯ เปิดเผยายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหาร สทศ. เพื่อพิจารณาผู้ที่เหมาะสมดำรงตำแหน่ง ผอ.สทศ.แทน ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ที่ หมดวาระไป เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่า คณะอนุกรรมการสรรหาฯ ได้เสนอรายชื่อผู้เหมาะสมให้คณะกรรมการบริหาร สทศ. พิจารณาตัดสินจำนวน 2 คน คือ 1. รศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ อาจารย์คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ 2. รศ.ดร.สมสรร วงษ์อยู่น้อย อาจารย์คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเอกฉันท์เลือก รศ.ดร.สัมพันธ์ ให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สทศ.คนใหม่ ด้วยเหตุผลว่า มีความรู้และประสบการณ์ด้านการวัดประเมินผลและการวิจัย อีกทั้งสามารถทำงานได้ทันที ในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ ขณะที่ ศ.ดร.อุทุมพร กล่าวว่า จากที่ สทศ. ได้ตรวจข้อสอบวัดความถนัดทั่วไป หรือ GAT และข้อสอบวัดความถนัดทางวิชาชีพ/วิชาการ หรือ PAT ครั้งที่ 3/2553 (เดือนต.ค.) วันที่ 9-12 ต.ค. 2553 พบว่ามีข้อสอบ 3 วิชาคือ PAT 2 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ PAT 3 ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์ และ PAT 7.2 ความถนัดทางภาษาเยอรมัน รวมจำนวน 10 ข้อ ที่มีปัญหาดังนั้น สทศ. จะต้องยกประโยชน์ให้คะแนนฟรีแก่นักเรียนใน 10 ข้อดังกล่าว ศ.ดร.อุทุมพร กล่าวด้วยว่า สำหรับ ข้อที่มีปัญหาแต่ละวิชามีดังนี้ PAT 2 ให้ฟรี 2 ข้อคือ ข้อ 98-99 เนื่องจากโจทย์ไม่ชัดเจน ส่วน PAT 3 ให้ฟรี 5 ข้อ สำหรับ PAT 7.2 ให้ฟรี 1 ข้อ คือ ข้อ 38 เนื่องจากขณะออกข้อสอบประธานาธิบดีของเยอรมนีจะมีวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปี แต่ด้วยสาเหตุทางการเมือง ประธานาธิบดีได้ลาออกเมื่อเดือนมิ.ย.2553 ดังนั้น ข้อนี้จึงไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง อ่านแล้ว น้ำตาไหล อนิจจาการศึกษาไทย
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
#2
|
||||
|
||||
อืมมมม
__________________
เวลาที่เหลืออยู่มีวิธีการใช้สองแบบ คือ ทางที่เรียบง่ายไม่มีอะไร กับอีกทาง ที่ทุกอย่างล้วนมหัศจรรย์ |
#3
|
||||
|
||||
ชี้แจงเรียบร้อย
หวังว่าคงเป็นที่พอใจกับหลายๆคนนะครับ
__________________
คณิตศาสตร์ คือ ภาษาสากล คณิตศาสตร์ คือ ความสวยงาม คณิตศาสตร์ คือ ความจริง ติดตามชมคลิปวีดีโอได้ที่http://www.youtube.com/user/poperKM |
#4
|
|||
|
|||
จริงๆแล้วข้อสอบผิดคือความผิดพลาดอย่างหนึ่งของการวัดผลนะครับ
มันมีผลกระทบหลายอย่าง และทำให้คุณภาพการวัดผลผิดเพี้ยนไป ยกตัวอย่างง่ายๆ เด็กคนนึงเสียเวลาทำข้อสอบผิดไปตั้ง 10 นาที แทนที่จะเอาเวลาเหล่านี้ไปทำข้อสอบข้ออื่น กับเด็กอีกคนนึงโจทย์ถูกผิดไม่รู้มั่วไปก่อน ปรากฎว่าสุดท้ายได้คะแนนฟรีเท่ากัน ถามว่าใครได้เปรียบเสียเปรียบในกรณีนี้
__________________
site:mathcenter.net คำค้น |
#5
|
||||
|
||||
อืม...
จริงอย่างที่คุณ nooonuii ว่าครับ
__________________
คณิตศาสตร์ คือ ภาษาสากล คณิตศาสตร์ คือ ความสวยงาม คณิตศาสตร์ คือ ความจริง ติดตามชมคลิปวีดีโอได้ที่http://www.youtube.com/user/poperKM |
#6
|
||||
|
||||
อ่านต้นฉบับของแท้ที่นี่ดีกว่า
http://www.niets.or.th/upload-files/...80af094cbb.pdf ผมนึกว่าอ่านแล้ว น้ำลายไหล นิจจาการศึกษาไทย ซะอีก ที่ว่าน้ำลายไหล เข้าใจหัวเราะจนของต้องไหลออกจากปาก ส่วนที่เป็นนิจจา ก็เพราะหายตัวได้ เวลาผิดก็หาทางออกได้ทุกทีซินะ ผมแยกไม่ออกว่าชี้แจงหรือแก้ตัวซิครับ อ้างอิง:
ลองอ่านคู่มือนี้ดูครับ http://www.niets.or.th/upload-files/...1c372d0ebb.pdf ผมเสียเวลาอ่านมัน 65 หน้าเมื่อหลายวันก่อน ก็ยังคิดอยู่ว่าจะโพสต์ให้อ่านกันดูแต่ก็คิดอยู่นาน จนเห็นข่าววันนี้ เลยไม่แปลกใจว่าทำไมถึงทำคู่มือออกมา ที่แท้ก็เป็นการชี้แจง(เข้าใจว่าคนทำคิดอย่างนั้น) แต่สำหรับผมแล้วผมว่าเป็นการแก้.... สาธยายว่าใครเป็นคนออกข้อสอบ ทำไมสทศ.ถึงได้เข้าไปเกี่ยวข้องและทำไมถึงเกิดปัญหาของข้อสอบที่มีการผิดพลาด ฯลฯ ผมอ่านแล้วเลยไม่แปลกใจ ก็เพราะคิดอย่างนี้นี่เอง ถึงเป็นอย่างที่เห็น และคงเป็น สทศ.(สุดทางของการศึกษา)นี่เอง ผมหวังว่า ผอ. สทศ. คนใหม่คงมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นนะครับ |
#7
|
|||
|
|||
ขอเสนอวิธีแก้ด้วยครับ เดี๋ยวจะหาว่าผมติอย่างเดียว
ผมคิดได้สองวิธี คือ 1. ให้มีคนออกข้อสอบอย่างน้อยสองคน คนนึงออก หรือแบ่งกันออกก็ได้ แต่ต้องมีการตรวจทานโดยให้คนที่ไม่ได้ออกข้อสอบเป็นคนตรวจ วิธีนี้ผมก็ใช้อยู่ อาจารย์ผู้สอนจะเป็นคนออกข้อสอบ ส่วนผมเป็น TA จะเป็นคนคิดเฉลยแล้วก็ comment ข้อสอบ 2. เพิ่มตัวเลือกอีกหนึ่งข้อ คือ ไม่มีคำตอบข้อใดถูก วิธีนี้จะทำให้ข้อสอบผิดหมดไปทันที ในกรณีที่คำตอบไม่ตรงกับตัวเลือก และยังช่วยให้เด็กที่คิดมาถูกทางได้คะแนนข้อนี้ไป ส่วนคนที่มั่วก็มีโอกาสตอบถูกน้อยลง ใครคิดวิธีที่แตกต่างจากสองวิธีนี้ได้ ลองช่วยกันแสดงความคิดเห็นครับ ผมเองก็อยากนำไปปรับใช้สำหรับตัวเองด้วยเหมือนกัน
__________________
site:mathcenter.net คำค้น |
#8
|
||||
|
||||
#7
ข้อ 1 ที่คุณ nooonuii แสดงความเห็น ทางสทศ. ได้ชี้แจงไว้ในคู่มือที่ผมลิงค์ไว้แล้ว ว่าทำไมถึงไม่ให้ตรวจทาน ลองอ่านดูสนุกๆก็ได้นะครับ เผื่ออาจจะเข้าใจเขาก็ได้นะ ข้อ 2 ข้อสอบรามใช้วิธีนี้ครับ อันที่จริงผมเคยนำเสนอไปในหลายที่แต่รู้สึกว่าเหมือนเอาหัวไปอยู่ในโอ่งแล้วก็อยากพูดอะไรก็พูดไป บางครั้งเสนอถึงกระบวนการทำเสียด้วยซ้ำ |
#9
|
|||
|
|||
ขอบคุณสำหรับข้อมูลของคุณหยินหยางครับ
สรุปคือเขากลัวว่าข้อสอบรั่วนี่เองครับ ผมชอบประโยคนี้ที่สุด ข้อสอบที่ปลอดภัยที่สุดคือข้อสอบที่มีผู้เกี่ยวข้องน้อยที่สุด จริงครับ ผมเห็นด้วย แต่ไม่คิดถึงคุณภาพของข้อสอบกันบ้างเหรอ
__________________
site:mathcenter.net คำค้น |
#10
|
||||
|
||||
อันที่จริงถ้าคนเคยทำข้อสอบทุกชุดก็พอประเมินได้ว่าความผิดพลาดของข้อสอบมาจากอะไรบ้าง และตรงกับข้อเท็จจริงที่บอกหรือไม่ ผมยกตัวอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นจริงเป็นข้อสอบ PAT 3 มั้งครับ ได้นำข้อสอบเก่ามาออกครั้งก่อนหน้านั้น แต่คำตอบต้องอาศัยคำตอบจากตัวเลือกครับ แต่ครั้งนั้นดันให้ตอบแบบเติมคำ เห็นถึงคุณภาพกับสิ่งที่ชี้แจงได้ชัดว่ามันขัดกันอยู่ นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น หลักคิดที่ว่า ข้อสอบที่ปลอดภัยที่สุดคือข้อสอบที่มีผู้เกี่ยวข้องน้อยที่สุด ผมว่าเป็นแค่ปลายเหตุเพราะอะไรที่ไปผูกกับคนย่อมไม่มีความแน่นอน เพียงแต่ถ้ามีระบบการตรวจสอบและ cross check กันได้ น่าจะเป็นวิธีที่ดีกว่าไม่ใช่หรือ แม้แต่ในระบบศาลเพื่อป้องกันการ bias ของผู้พิพากษา ยังเป็นระบบขององค์คณะผู้พิพากษาในการตัดสินคดีความเลย ดังนั้นถ้ามีการวางระบบและมาตรการรวมถึงขั้นตอนปฏิบัติที่ชัดเจน ก็น่าจะแก้ได้ดีกว่านี้ ไม่ใช่ไปผูกกับคนจำนวนน้อย อันที่จริง ถ้าคิดว่าระบบการคัดเลือกโดยวิธีนี้ดี การทำคลังข้อสอบโดยใช้ คอมพิวเตอร์ในการ random ก็ไม่ใช่เรื่องยาก โดยออกข้อสอบทุกเรื่องเป็นร้อยๆข้อ โดยแบ่งระดับความยากง่ายไว้อย่างละกี่ข้อ เป็นพื้นฐานกี่ข้อ เชิงวิเคราะห์กี่ข้อ เชิงประยุกต์และสังเคราะห์กี่ข้อไว้ในฐานข้อมูล และใช้ทุกๆ 5 ปี แล้ว revise ใหม่หมดก็ได้ ก็เป็นวิธีที่ป้องกันการรั่วได้และเที่ยงตรง เพียงแต่ข้อสอบในแต่ละกลุ่มแต่ละเรื่องต้องได้มาตรฐาน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยาก ปัญหาที่กล่าวอ้างว่าผู้ออกข้อสอบต้องสำรวจและดูหลักสูตรมาจากตำราเรียนบ้างหรือตำราที่ขายกันท้องตลาดบ้าง เอาเข้าจริง ผมว่าก็วนกันไปมา ระหว่าง สอวน. สมาคม เพชรยอดมงกุฎ หรือข้อสอบแข่งขัน นี่แหละครับ ดัดแปลงนิดหน่อย ผมถึงบอกว่าถ้าเอาข้อมูลมาดูกันจริงๆ ก็จะเห็นปัญหาว่าคืออะไร
|
|
|